วัตถุประสงค์ของการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 117 ช่วง อุตรดิตถ์-ภูดู่ ตอน แยกป่าขนุน-แยกสักใหญ่ มีวัตถุประสงค์ดังนี้
- เพื่อศึกษารายละเอียดของโครงการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการคาดการณ์/ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจขึ้นเกิดจากการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่ระยะเตรียมการก่อสร้าง ระยะก่อสร้าง และระยะดำเนินการ
- เพื่อศึกษาสภาพสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ ครอบคลุม 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางด้านกายภาพ ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางด้านชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และคุณค่าต่อคุณภาพชีวิต ทั้งในระยะเตรียมการก่อสร้าง ระยะก่อสร้าง และระยะดำเนินการ ซึ่งในการศึกษาสภาพสิ่งแวดล้อมปัจจุบันจะทำการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากเอกสารและรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทำการสำรวจและเก็บตัวอย่างคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เช่น การตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดิน การตรวจวัดคุณภาพอากาศ การตรวจวัดระดับเสียง การตรวจวัดการสั่นสะเทือน การสำรวจการใช้ประโยชน์ที่ดิน สำรวจสภาพเศรษฐกิจ-สังคมของตัวแทนกลุ่มเป้าหมาย และการสำรวจด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี เป็นต้น
- เพื่อประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของแนวเส้นทางโครงการ โดยใช้หลักเกณฑ์และวิธีการทางวิชาการเป็นหลักหรือแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในการประเมิน เพื่อให้เกิดความแม่นยำและแน่นอนมากขึ้น โดยทำการประเมินผลกระทบทั้งกรณีที่ไม่มีโครงการและกรณีที่มีโครงการ ครอบคลุมระยะเตรียมการก่อสร้าง ระยะก่อสร้าง และระยะดำเนินการ ทั้งผลกระทบด้านบวก และผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ
- เพื่อกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม และแผนจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ทั้งระยะเตรียมการก่อสร้าง ระยะก่อสร้าง และระยะดำเนินการ
- เพื่อดำเนินการในกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชน และการประชาสัมพันธ์โครงการ ตลอดระยะเวลาการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ โดยข้อคิดเห็นที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็น จะนำมาพิจารณาประกอบการศึกษาไว้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ศึกษาโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 117 ช่วง อุตรดิตถ์-ภูดู่ ตอน แยกป่าขนุน-แยกสักใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 3 อำเภอ
7 ตำบล คือ ตำบลคุ้งตะเภา ตำบลป่าเซ่า ตำบลผาจุก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ตำบลน้ำพี้ ตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน ตำบลน้ำไคร้ ตำบลแสนตอ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยที่ปรึกษาแบ่งพื้นที่ศึกษาของโครงการออกเป็น 2 กรณี คือ พื้นที่ศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และพื้นที่ศึกษาด้านโบราณสถานและแหล่งโบราณคดี มีรายละเอียดดังนี้
1) พื้นที่ศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม พื้นที่ศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการ จะดำเนินการศึกษาให้ครอบคลุมพื้นที่โครงการและพื้นที่ใกล้เคียงโครงการ ในระยะ 500 เมตร จากกึ่งกลางแนวเส้นทางโครงการ
2) พื้นที่ศึกษาด้านโบราณสถานและแหล่งโบราณคดี การศึกษาด้านโบราณสถานและแหล่งโบราณคดีจะดำเนินการศึกษาครอบคลุมรัศมีอย่างน้อย 1 กิโลเมตร จากกึ่งกลางแนวเส้นทางโครงการ โดยทำหนังสือตรวจสอบกับสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย และสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมโดยผู้เชี่ยวชาญ
แนวทางการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ในกระบวนการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ เพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่ถูกต้องที่สุดบนพื้นฐานทางวิชาการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ปรึกษาจะดำเนินการศึกษาตามข้อกำหนดการศึกษา (TOR) ของกรมทางหลวงเป็นอย่างน้อย และจะดำเนินการตามแนวทางและหลักเกณฑ์ในการศึกษาและจัดเตรียมรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1) ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562
2) แนวทางในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการทางหลวง (Guidelines for Preparation of Environmental Impact Statement of a Road Scheme: ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 7 เดือนตุลาคม 2564) จัดทำโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมทางหลวง
3) แนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประเภทโครงการด้านคมนาคม ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พ.ศ. 2549
4) แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พ.ศ. 2562
5) แนวทางการจัดทำแผนงานการมีส่วนร่วมของประชาชน (Guidelines for Preparation of Public Involvement Plan) ของกลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักแผนงาน กรมทางหลวง (ปรับปรุงครั้งที่ 4 เดือนตุลาคม 2563)
ขั้นตอนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE)
การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นกับโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 117 ช่วง อุตรดิตถ์-ภูดู่ ตอน แยกป่าขนุน-แยกสักใหญ่ ประกอบไปด้วย การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของพื้นที่โครงการ และการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) โดยจะทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นสำหรับโครงการ จากนั้นทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเสนอมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบและแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
ขั้นตอนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ
สภาพแวดล้อมปัจจุบัน
การรวบรวมข้อมูลสถานภาพปัจจุบันของทรัพยากรสิ่งแวดล้อมโดยทั่วไป และคุณค่าต่างๆ ที่มีต่อมนุษย์ พร้อมด้วยแผนที่โครงการ และพื้นที่บริเวณที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการ โดยกำหนดองค์ประกอบและปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่จะทำการศึกษาตามกรอบของแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการทางหลวง (Guidelines for Preparation of Environmental Impact Statement of A Road Scheme : ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 7 เดือนตุลาคม 2564) ของกลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานแผนงาน กรมทางหลวง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการประเภทการคมนาคมทางบก ที่กำหนดโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พ.ศ. 2549 โดยการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสถานภาพปัจจุบันของทรัพยากรสิ่งแวดล้อมโดยทั่วไป และคุณค่าต่างๆ ที่มีต่อมนุษย์ พร้อมด้วยแผนที่โครงการ และพื้นที่บริเวณที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการ จะพิจารณาโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ (Natural Environment) และ สิ่งแวดล้อมทางสังคมมนุษย์ (Social Environment) โดยทั้ง 2 กลุ่มจะแบ่งเป็น 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางด้านกายภาพ ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางด้านชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และคุณค่าต่อคุณภาพชีวิต โดยภายใต้แต่ละองค์ประกอบจะมีปัจจัยหลักทางด้านสิ่งแวดล้อม รวม 37 ปัจจัย ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ปัจจัยสิ่งแวดล้อมหลักที่ทำการศึกษา
ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม (9 ปัจจัย) |
ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม (4 ปัจจัย) |
คุณค่าการใช้ประโยชน์ (10 ปัจจัย) |
คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต (14 ปัจจัย) |
• ภูมิสัณฐาน • ทรัพยากรดิน • ธรณีวิทยา • ทรัพยากรแร่ธาตุ • น้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน • น้ำทะเล • อากาศและบรรยากาศ • เสียง • ความสั่นสะเทือน |
• ระบบนิเวศน์ • สัตว์ในระบบนิเวศน์ • พืชในระบบนิเวศน์ • สิ่งมีชีวิตที่หายาก
|
• น้ำเพื่อการอุปโภค และบริโภค • การคมนาคม • สาธารณูปโภค • พลังงาน • การควบคุมน้ำท่วม และการระบาย • การเกษตรกรรม • การอุตสาหกรรม • เหมืองแร่ • สันทนาการ • การใช้ที่ดิน |
• เศรษฐกิจ-สังคม • การโยกย้ายและ • การศึกษา • การสาธารณสุข • อาชีวอนามัย • การแบ่งแยก • อุบัติเหตุและความปลอดภัย • ความปลอดภัยในสังคม • สุขาภิบาล • สารอันตราย • ความสำคัญเฉพาะชุมชน • ผู้ใช้ทาง • ประวัติศาสตร์และโบราณคดี • สุนทรียภาพ |