วัตถุประสงค์ของการมีส่วนร่วมของประชาชน
1) เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโครงการ คําชี้แจง และเหตุผลความจําเป็นของการพัฒนาโครงการอย่างถูกต้อง ชัดเจน รวมทั้งเข้าใจขั้นตอนและกระบวนการศึกษาของโครงการอย่างต่อเนื่องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประชาชนในท้องถิ่น องค์กรเอกชน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนทั่วไปที่สนใจโครงการได้รับทราบ
2) เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายและสาธารณะชนได้มีความรู้ ความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อกระบวนการศึกษาเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ในพื้นที่โครงการได้เห็นประโยชน์ของโครงการต่อสาธารณะ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและความร่วมมือที่ดี
3) เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาโครงการ โดยเฉพาะประเด็นรูปแบบทางแยกของโครงการที่ตัดผ่านพื้นที่ถือครองของประชาชน ให้ได้ทางเลือกรูปแบบทางแยกที่เป็นที่ยอมรับและส่งผลกระทบน้อยที่สุด
พื้นที่ดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน
การดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 3 อำเภอ 7 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลคุ้งตะเภา ตำบลป่าเซ่า ตำบลผาจุก อำเภอเมือง ตำบลน้ำพี้ ตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน ตำบลน้ำไคร้ และตำบลแสนตอ อำเภอน้ำปาด ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 พื้นที่ดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน
จังหวัด |
อำเภอ |
ตำบล |
การปกครองส่วนท้องถิ่น |
อุตรดิตถ์ |
เมือง |
คุ้งตะเภา |
องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งตะเภา |
ป่าเซ่า |
องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งป่าเซ่า |
||
ผาจุก |
องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งผาจุก |
||
ทองแสนขัน |
น้ำพี้ |
องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งน้ำพี้ |
|
ผักขวง |
องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งผักขวง |
||
น้ำปาด |
น้ำไคร้ |
องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งน้ำไคร้ |
|
แสนตอ |
องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งแสนตอ |
||
1 จังหวัด |
3 อำเภอ |
7 ตำบล |
7 การปกครองส่วนท้องถิ่น |
กลุ่มเป้าหมาย
การดำเนินงานการมีส่วนร่วมของประชาชนของโครงการเน้นให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน หน่วยงานปกครอง กลุ่มองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจในโครงการ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินงาน 7 กลุ่ม โดยจำแนกกลุ่มเป้าหมายตามแนวทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ตามแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 ดังนี้
1) ผู้ได้รับผลกระทบ: แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโครงการในด้านลบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น กลุ่มผู้นำชุมชน และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ศึกษาของโครงการ และกลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโครงการในด้านบวก ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ผู้ประกอบการธุรกิจการค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของโครงการ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวเนื่องจากการพัฒนาโครงการ เป็นต้น
2) ผู้ที่รับผิดชอบจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอม: ได้แก่
- เจ้าของโครงการ ในที่นี้หมายถึง กรมทางหลวง
- นิติบุคคลผู้มีสิทธิทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือที่ปรึกษา ในที่นี้หมายถึงกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท วิศวกรรมธรณีและฐานราก จำกัด (GFE) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
3) ผู้ที่ทำหนาที่พิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอม: ได้แก่
- สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) หรือหน่วยงานของรัฐตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่แทน
- คชก. และ/หรือ กก.วล.
- ผู้ที่มีหน้าที่ตัดสินใจอนุมัติอนุญาตโครงการ เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรี และหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมาย
4) หน่วยงานราชการในระดับต่าง ๆ: ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เป็นต้น
5) องค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา และนักวิชาการอิสระ: เช่น กลุ่มองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมจะเป็นองค์กรที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ในที่นี้หมายถึง กลุ่มหรือองค์กรต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือเข้าไปใช้ประโยชน์พื้นที่ สถาบันการศึกษาภายในพื้นที่โครงการหรือสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษา และนักวิชาการอิสระ ในที่นี้หมายความรวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนักวิชาการจากภายนอก
6) สื่อมวลชน: สื่อมวลชนระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง ซึ่งมีบทบาทในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการ ผลกระทบของโครงการและความก้าวหน้าในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
7) ประชาชนทั่วไป: สาธารณชนที่มีความสนใจโครงการ จะมีบทบาทในฐานะผู้สังเกตการณ์
แผนการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน
แผนการมีส่วนร่วมของประชาชนจะดำเนินการร่วมกับการประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนสิ้นสุดการศึกษาโครงการ โดยมุ่งเน้นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารแก่กลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนและมีความโปร่งใส เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีโอกาสรับทราบข้อมูลความคืบหน้าของโครงการ และเปิดโอกาสให้มีการรับฟังความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะได้ในทุกขั้นตอนการศึกษาโครงการ
ที่ปรึกษาได้จัดทำแผนการมีส่วนร่วมของประชาชน จำนวน 8 แผน (ดังรูปที่ 1) เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร รวมถึงมีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นหรือความกังวลใจเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการได้ทุกระยะ โดยจะนำข้อคิดเห็น ประเด็น และข้อเสนอแนะที่ได้รับไปใช้พิจารณาปรับปรุงแนวทางการทำงานในขั้นต่อไป สำหรับแผนงานการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้ง 8 แผน ประกอบด้วย
1) แผนการเตรียมความพร้อมก่อนการรับฟังความคิดเห็น
2) แผนการประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 1)
3) แผนการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อรูปแบบทางแยกและรูปแบบทางเลือกของโครงการ (การประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 1)
4) แผนการสัมภาษณ์เชิงลึก ครั้งที่ 1 (ผู้มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดนโยบายการพัฒนาเมือง)
5) แผนการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อรูปแบบทางแยกละรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมของโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 2)
6) แผนการสัมภาษณ์เชิงลึก ครั้งที่ 2 (ผู้มีบทบาทสำคัญต่อพื้นที่อ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม)
7) แผนการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ (การประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 2)
8) แผนการประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 3)
แผนการประชาสัมพันธ์โครงการ
การประชาสัมพันธ์โครงการ โดยการนำเสนอเนื้อหาขอบเขตงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ประกอบด้วย
1) การประชุมเตรียมความพร้อมก่อนการรับฟังความคิดเห็น
2) การประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 1)
3) แผนการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อรูปแบบทางแยกและรูปแบบทางเลือกของโครงการ (การประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 1)
4) การสัมภาษณ์เชิงลึก ครั้งที่ 1 (ผู้มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดนโยบายการพัฒนาเมือง)
5) แผนการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อรูปแบบทางแยกละรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมของโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 2)
6) การสัมภาษณ์เชิงลึก ครั้งที่ 2 (ผู้มีบทบาทสำคัญต่อพื้นที่อ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม)
7) การประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ (การประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 2)
8) การประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 3)